วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558

วิธีการเข้า DFU Mode ของ iPhone, iPad, iPod touch

จะใช้ในกรณีใดบ้าง

  • ต้องการ unjailbreak คือ เครื่องเจลเบรคแล้วอยากเอาออกให้เป็นเหมือนเครื่องออกจากโรงงาน
  • เครื่องติด apple logo ไม่สามารถบูตเข้าเครื่องได้
  • การ restore ใน recovery mode ไม่ผ่าน

หลักการ ที่เป็นคำอธิบาย

* ปิดเครื่อง
** ต่อ iPhone กับคอม
*** กดปุ่มเปิดค้างประมาณ 3 วินาที จะเห็นโลโก Apple
**** กด Home ค้าง (ปุ่มปิด/เปิดค้างด้วย) ประมาณ 10 วินาที
***** ปล่อยปุ่ม ปิด/เปิด ออก แต่ยังคงกด Home ไว้ รอประมาณ 30 วินาที หรือน้อยกว่านั้น ให้สังเกตที่คอม จะพบว่า iTunes พบ iPhone ของเราแล้ว แต่ว่าที่หน้าจอ iPhone จะไม่ติดนะครับ จากนั้นเราสามารถทำการ Restore iPhone firmware ได้
ข้อควรจำ การ restore
** Windows กด Shift+Restore
** Mac กด Option+Restore
จากนั้นจะเข้าขั้นตอนการรีสโตร์ Fimware ลงที่ตัวเครื่องครับ

หมายเหตุ การทำแบบนี้ข้อมูลในเครื่องทั้งหมดจะหาย และมีความเสี่ยงที่จะติดหน้า activation lock ฉะนั้นต้องมั่นใจว่าเครื่องที่กำลังทำนั้นเราทราบ apple id/password ที่ผูกอยู่แล้วเท่านั้น
เครดิต iphonemod.net

วิธีแก้ iPhone ขึ้นค้นหาสัญญาณหรือ Searching ตลอดเวลา


บางครั้งเครื่อง iPhone จะขึ้นค้นหาสัญญาณโดยสุดท้ายแล้วจะไม่สามารถรับสัญญาณเครือข่ายได้ มีสาเหตุอย่างไรและจะแก้ไขปัญหานั่นอย่างไรมาชมกันครับ

ความเป็นไปได้ของปัญหา

  1. อยู่ในสถานที่อับสัญญาณ
  2. iPhone ไม่สามารถจับเครือข่ายเจ้าของซิมได้
  3. ซิมการ์ดอาจจะมีปัญหา
  4. ระบบซอฟต์แวร์ของเครื่องอาจจะเกิดปัญหา(บางครั้ง)

การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น

วิธีที่ 1 – เปิดโหมดเครื่องบินสัก 10 วินาทีจากนั้นปิด เพื่อให้ระบบค้นหาสัญญาณเพื่อจับเข้าเครือข่ายต่อไป
วิธีที่ 2 – ปิดเครื่อง iPhone แล้วเปิดใหม่จากนั้นรอให้ระบบจับสัญญาณอีกครั้ง ดูว่าแก้ปัญหาได้หรือเปล่า
วิธีที่ 3 – ปิดการเลือกเครือข่ายอัตโนมัติ (Automatic Carriers) โดยไปที่ Settings> Carrier> เลือก Automatic ให้เป็น Off จากนั้นเลือกเครือข่ายของซิมที่ใช้บริการ

วิธีที่ 4 – ทำการรีเซตระบบเครือข่าย (Reset Network Setting) เพื่อกลับคืนค่าระบบเครือข่ายแบบปกติจากโรงงาน มันจะล้างการตั้งค่าระบบเครือข่ายเช่น Carrier, Wifi แต่ไม่ทำให้ข้อมูลหาย   ทำได้โดยไปที่ Settings> General> Reset> Reset Network Setting
จากนั้นเครื่องจาก Restart 1 รอบ แล้วดูว่าอาการแก้ได้ไหม
วิธีที่ 5 – ถอดซิมออกแล้วติดตั้งเข้าไปให้
วิธีที่ 6 – ทำการฮาร์ดรีเซต โดยการกดปุ่ม Home + Power ค้างจนเครื่องดับจากนั้นกดต่อจนเห็น Apple logo แล้วจึงปล่อย แล้วก็ดูอีกทีว่าแก้ได้ไหม
ทั้งหมดเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นที่พบว่าสามารถแก้ปัญหาได้จริง
ปล. บทความนี้ไม่ครอบคลุมกรณี iPhone นั้นติดล็อคสัญญาณเครือข่ายจากต่างประเทศแล้วนำกลับมาใช้งานในไทยจะไม่สามารถจับสัญญาณได้ นอกจากจะต้องทำการปลดล้อคถาวรแล้วเสียก่อน
เครดิต iPhonemd.net

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2558

วิธีตรวจสอบเครื่องสมาร์ทโฟน Samsung, Sony, LG, HTC และ OPPO ก่อนรับซื้อหรือรับจำนำ


หลังจากที่ทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ได้เคยแนะนำ รหัสตรวจสอบเครื่องสมาร์ทโฟน Samsung กันไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้แนะนำรหัสตรวจสอบของสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ให้ทุกท่านได้ทราบด้วย ดังนั้นในวันนี้เราจึงขอนำเอารหัสตรวจสอบเครื่องสมาร์ทโฟนแบรนด์ชั้นนำ มาสรุปให้ทุกท่านได้ทราบกันอีกครั้ง เพราะราคาของสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งก็ไม่ใช่ถูกๆ การตรวจสอบเครื่องให้เรียบร้อยก่อนจ่ายเงินซื้อ นับเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งยวด เพื่อให้ท่านได้สมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ที่มีสภาพภายนอก และการทำงานที่สมบูรณ์ 100% อย่างที่ควรจะเป็น ทั้งการแสดงผล, ระบบสัมผัส, การรับสัญญาณ, เซ็นเซอร์, กล้องถ่ายภาพ, ลำโพง, ปุ่มกด และการทำงานพื้นฐานอื่นๆ ดังนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าว่า สมาร์ทโฟนแต่ละแบรนด์จะมีวิธีกดรหัสตรวจสอบเครื่องอย่างไรบ้าง



รหัสตรวจสอบเครื่องสมาร์ทโฟน Samsung กด *#0*# (ใช้ได้ทุกรุ่น)


รหัสตรวจสอบเครื่องสมาร์ทโฟน Sony กด *#*#7378423#*#* (ใช้ได้ทุกรุ่น)
(Tip : ตัวเลข 7378423 ของ Sony ก็คือคำว่า Service บน Keypad นั่นเอง)


รหัสตรวจสอบเครื่องสมาร์ทโฟน LG กด 3845#*เลขโมเดลของแต่ละรุ่น#
(เช่น LG G3 D855 ให้กด 3845#*855#)


รหัสตรวจสอบเครื่องสมาร์ทโฟน HTC กด *#*#3424#*#* (ใช้ได้ทุกรุ่น)


รหัสตรวจสอบเครื่องสมาร์ทโฟน OPPO กด *#808#

นับว่าเป็นวิธีการตรวจสอบที่ง่ายมากๆ ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง เพียงแค่เปิดฟังก์ชันโทรศัพท์ของแต่ละเครื่องขึ้นมาก่อน แล้วกดรหัสตามด้านบนได้ทันที จากนั้นก็จะมีเมนูต่างๆ สำหรับการตรวจสอบเครื่องแสดงขึ้นมาให้เลือกได้ตามต้องการ เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ หากท่านใดมีโอกาสได้ซื้อมือถือ, สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต เครื่องใหม่ ก็อย่าลืมสละเวลาสักนิด เพื่อตรวจสอบเครื่องให้เรียบร้อยกันก่อนนะครับ

เครดิต thaimobilecenter.com



วิธีทดสอบเครื่อง Asus Zenfone 4, Asus Zenfone 5 และ Asus Zenfone 6


จะซื้อ Zenfone แล้ว ต้องเช็คเครื่องอย่างไรบ้าง แนะนำหน่อยครับ? สำหรับการตรวจเช็คเครื่องหลักๆ เลยก็จะตรวจสอบตัวเครื่องว่าใหม่จริง, ไม่มีริ้วรอยและไม่เคยโดนแกะมาก่อน จากนั้นก็มาดูที่อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องว่ามีครบหมือนกับคนอื่นไหม โดย Asus Zenfone แต่ละรุ่นก็จะมีของในกล่องให้แตกต่างกันไป ดังนี้

Asus Zenfone 4 (รุ่นแบต 1200 mAh) – อแดปเตอร์, สาย USB, แบตเตอรี่ 2 ก้อน
Asus Zenfone 4 (รุ่นแบต 1600 mAh) – อแดปเตอร์, สาย USB
Asus Zenfone 5 อแดปเตอร์, สาย USB, หูฟัง
Asus Zenfone 6 อแดปเตอร์, สาย USB, หูฟัง

ส่วนมากก็จะตรวจสอบกันประมาณนี้แหละครับ แต่มันจะมีรายละเอียดยิบย่อยที่ควรจะต้องตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะจ่ายเงินซื้อ Asus Zenfone ซักเครื่องกลับบ้าน เพราะถ้าพบปัญหา อย่างน้อยทางร้านก็จะแกะเครื่องใหม่ให้เราทันที หรือถ้าร้านงอแง เราก็แค่ไปซื้อร้านอื่นแทน โดยรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ เนี่ย เอาจริงๆ มันมีเยอะพอสมควรเลย แต่สำหรับ Asus Zenfone ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Asus Zenfone 4, Asus Zenfone 5 และ Asus Zenfone 6 จะมีโหมดทดสอบเครื่องใส่มาให้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพียงแต่วิธีการเรียกโหมดนี้มันค่อนข้างซับซ้อนนิดหน่อย

สำหรับการเรียกโหมดทดสอบฮาร์ดแวร์ของ Asus Zenfone Series จะไม่เหมือนกับมือถือแอนดรอยทั่วไปนะครับ อย่างมือถือแอนดรอยทั่วไปจะใช้การกดปุ่มโทรศัพท์ 
แต่ของ Zenfone จะใช้การกดปุ่มเครื่องคิดเลขแทน วิธีการก็ไม่ยากเลย ให้เข้าที่ไปเครื่องคิดเลข จากนั้นใส่รหัสลับนี้ลงไป

.12345+=

เมื่อเรากดตามนี้ โหมดทดสอบฮาร์ดแวร์ภายในเครื่องของ Asus Zenfone ก็จะเผยตัวออกมาให้เห็นครับ หน้าตา UI ของแอพอาจจะดูบ้านๆ หน่อย แต่ความสามารถนี่จัดว่าไม่ธรรมดา เราสามารถเลือกทดสอบทีละอย่าง หรือถ้าจะทดสอบเครื่องก่อนจ่ายเงินซื้อก็ควรเทสทุกอย่าง โดยกดที่มุมขวาบนของโหมดทดสอบเครื่อง แล้วเลือกที่ Start autorun ตัวแอพก็จะทำการไล่ทดสอบให้ทุกอย่างเลย


ในการทดสอบเราก็สามารถปล่อยให้เครื่องมือจัดการของมันไปตามสเต็ป แต่จะมีในบางขั้นตอนเท่านั้นที่เราต้องขยับเครื่องเอง เช่น
GSensor_Test เป็นการทดสอบเซนเซอร์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว ให้ลองขยับมือถือไปมา
Display_Test ทดสอบหน้าจอเพื่อหา Dead
Proximity_Test คือการทดสอบเซนเซอร์วัดระยะห่าง ให้ลองเอามือปิดส่วนบนของตัวเครื่อง หรือยกเครื่องแนบหูในลักษณะของการใช้งานโทรศัพท์
LightSensor_Test ทดสอบเซนเซอร์วัดระดับแสง ให้ลองเอามือถือส่องไฟดูครับว่ามันสามารถแยกแยะความต่างของสภาพแสงโดยรอบได้หรือไม่

ซึ่งผลการทดสอบที่ดีควรจะต้องขึ้นสถานะ สีเขียวทุกช่องนะครับ ถ้ามีช่องไหนเป็นสถานะ Fail แนะนำให้บอกกับทางร้านว่าขอเปลี่ยนเครื่องเป็นการดีที่สุด เพราะนั่นแสดงว่าเครื่องที่คุณกำลังจะได้รับเป็นเจ้าของนั้นมีปัญหาซะแล้วหล่ะ

เครดิต specphone.com

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2558

วิธีเช็ค iPhone IMEI ทำยังไง

หมายเลข IMEI เป็นหมายเลขประจำตัวเครื่องของแต่ละ iPhone มันจะบอกได้ว่า iPhone ตัวนั้นๆ เป็นรุ่นอะไร Mac address ของแต่ละอุปกรณ์, ประกันเหลือไหม จากประเทศอะไร ฯลฯ โดยเราสามารถใช้ประโยนชร์จาก IMEI ตัวนี้เช็คได้อย่างน้อยเราจะได้ทราบว่าเป็นรุ่นอะไรสำหรับใครที่มือใหม่จริงๆ

ดู IMEI iPhone ได้อย่างไร?

มีวิธีการด้วยกัน 4 แบบที่
1. ดูจากหน้า Settings> General> About (ชัวร์สุด)

2. กด *#06# ที่หน้าโทรออก (ชัวร์สุด)

3. เช็คที่ถาดใส่ซิม ที่ใต้ถาดใส่ซิมของเครื่องบางรุ่น เช่น iPhone 3GS, 4, 4S จะมี IMEI และ Serial เขียนเอาไว้ (อาจจะเกิดข้อผิดพลาดหากสลับถาดซิมกับเครื่องอื่นๆ) ปล. iPhone 5 ไม่มีเขียนเอาไว้นะครับ

4. เช็คจากกล่อง (อาจจะเกิดการผิดพลาดหากเครื่องซื้อมาจากร้านหรือเป็นเครื่องมือ 2 อาจจะสลับกันกล่องกันได้)

ได้ IMEI แล้วทำอย่างไรต่อ?

ไปที่เว็บไซต์ที่ให้บริการเช็ครายละเอียดจาก IMEI ต่างๆ เช่น
จะบอกข้อมูลพื้นฐานได้ครับ

เครดิต iphonemod.net

วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2558

โค้ดสำหรับกดเพื่อเช็คมือถือ

เย็นนี้น่าจะมีหลายคนกำลังจะไปซื้อมือถือใหม่กันครับ พี่เอกก็ไปรวมเอาพวกโค้ดสำหรับกดเพื่อตรวจสอบมือถือยี่ห้อดังๆ มาให้ จดกันไว้เลยนะครับโดยวิธีการก็ไม่มีอะไรมากครับ เปิดแป้นโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดโค้ดของแต่ละยี่ห้อลงไป หน้าจอจอเข้าสู่โหมด Service ซึ่งมีไว้สำหรับตรวจสอบการทำงานของเครื่องทั้งหมด เช่น ตรวจสอบจอภาพ Deadpixel , Bright Pixel ลำโพงเครื่อง ปุ่มกดต่างๆ และฟังก์ชันอื่นๆ ในการทำงานเกือบครบทุกอย่างครับ สะดวกดี ไม่ต้องลงแอพเสริมใดๆ ทั้งสิ้น แนะนำให้ตรวจสอบกันดีดีนะครับ อย่าใจร้อน เงินเราไม่ต้องรีบ เพราะเกิดกลับบ้านไปแล้วไปเจออะไรเสีย.. คราวนี้ต้องเอาเครื่องกลับมาเปลี่ยนอีก เสียเวลา บางยี่ห้ออาจจะต้องเอาไปเข้าศูนย์เพื่อให้ช่างตรวจสอบก่อน ถึงจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ … เสียเวลามากมาย ก็เสียเวลาตรวจเครื่องทีเดียวไปเลย กลับบ้านก็จะได้ใช้อย่างสบายใจ

อ้อ! อย่าลืมทดสอบโทรและรับสายด้วยนะครับ..

โค้ดเช็คมือถือยี่ห้อต่างๆ ที่หาได้ครับ

Samsung
*#0*#

*#*#7378423#*#*

HTC
*#*#3434#*#*

OPPO
*#808#

3845#*เลขรุ่น#

imobile
ปิดเครื่อง กดปุ่ม Volume – กับปุ่ม Power ค้างพร้อมกัน
 เครดิต arip.co.th

วิธีตรวจเช็คมือถือ แบบ เช็คเลขอีมี่

            มีหลายๆครั้ง(และหลายๆคน) ที่ไม่มีความชำนาญ หรือไปซื้อมือถือตามตู้ต่างๆ หรือไม่เว้นแม้แต่ตาม Shop ก็ตามแต่ ซึ่งบางครั้งก็อาจแฝงใส้ในของปลอมจากจีนแดงมาก็เป็นได้ พอจ่ายเงินไปแล้วเราถึงจะมา แงะ แกะ เกา ตัวเครื่องจนในที่สุดก็รู้ว่าเราได้เครื่องปลอมมานอนกอดกันไปซะแล้ว วันนี้ผมมีวิธีแจ่มๆมานำเสนอครับ ซึ่งอย่างที่รู้ๆกันว่ามือถือแต่ละเครื่องนั้น หากถูกต้องตามกฏหมายแล้วจะต้องมีตัวเลข "IMEI" อ่านว่า "อีมี่" อย่าอ่านผิดเป็น "อีเม้ย" นะครับ(มือถือนะไม่ใช่ผี ฮ่าๆ) ซึ่งจะเป็นรหัสของตัวเลขยาว 15 หลัก เปรียบเสมือนกับบัตรประชาชนของเรานั่นเอง


ตัวเลข IMEI นี่แหละที่จะทำให้เรารู้ว่าเครื่องที่อยู่ตรงหน้าเรานั้นเป็นของจริงหรือของปลอมกัน โดยเว็บไซต์ที่จะนำเสนอนี้ มันมีความสามารถที่จะบอกได้ว่าเป็นเครื่องยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร รวมไปถึงติดตั้ง OS อะไรอยู่อีกด้วย!!

• เว็บไซต์นั้นก็คือ http://imei-number.com/imei-lookup/

ถึงแม้ว่าหน้าตา interface มันจะดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือก็ตาม(ฮ่าๆ) แต่ confirm ว่ามันตรวจสอบให้เราได้แน่นอน

วิธีการตรวจสอบมือถือก่อนที่จะหิ้วกลับบ้านก็คือ

1.พาเพื่อนไปซักคนนึงที่มีมือถือที่ต่อ Edge ได้ แล้วทำการเปิดหน้าเว็บตรวจสอบ IMEI ขึ้นมา
2.เอาเลข IMEI 15 หลัก จากข้างหลังกล่องของมือถือที่ท่าน "กำลังซื้อ" พิมพ์ลงไปในช่อง IMEI 
3.พิม์ตัวเลขหรือตัวหนังสือจากในช่อง CAPTCHA Text ลงไปในช่อง String from image
4.กด Submit หลังจากนั้นรอโหลดซักแปปนึง ก็จะมีตารางรายละเอียดของมือถือเครื่องนั้นแสดงขึ้นมาครับ

*(ห้ามใช้อุปกรณ์เดิมเข้าเว็บเพื่อทำการตรวจสอบซ้ำกันเกิน 4 ครั้งติดต่อกัน ไม่เช่นนั้นจะโดนแบน IP ครับ ต้องปิดเน็ตแล้วต่อใหม่ถึงจะหาย)
*(สามารถตรวจสอบ Tablet ที่มี 3G ได้ด้วยนะครับ เพราะว่าอุปกรณ์ที่ใส่ซิมการ์ดได้ จะต้องมีเลข IMEI เสมอ )


อันนี้ผมทดสอบด้วยการใส่เลข IMEI ของ iPad2 3G ครับ บอก iOS ด้วยว่าตอนที่ซื้อเครื่องไปนั้นติดตั้ง iOS อะไรอยู่ ซึ่งหากใครกำลังหา iPad2 ที่ยังเป็น iOS4 อยู่ก็คงต้องพยายามกันหน่อยหละครับตอนนี้ เพราะว่า lot ใหม่นั้นเป็น iOS5 กันหมดแล้ว

หวังว่าเพื่อนๆคงจะได้ประโยชน์กันไปพอสมควรนะครับ เอาไว้ตรวจสอบเองได้เลยว่าจะไม่โดนหลอกแน่ๆ แต่ถ้าหากไม่มีความชำนาญเท่าไรก็ชวนเพื่อนหรือคนรู้จักไปช่วยดูอีกแรงนึงก็จะดีกว่าครับ ^_^

เครดิต tukkaeit.com



 
Blogger Templates